เร็ว ๆ นี้สวยเริ่มหันมาสนใจเกี่ยวกับการเลี้ยงหมาอย่างจริง ๆ จัง ๆ ค่ะ อันที่จริงที่บ้านสวยนั้นก็เลี้ยงหมาอยู่แล้ว 2 ตัว แต่หมาทั้ง 2 ตัวยังไม่สามารถตอบสนองตัณหาบางอย่างที่แอบซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึกของสวยได้ "สวยชอบของใหญ่ค่ะ!!" แม้ว่าน้องหมาที่สวยเลี้ยงอยู่จะหนักประมาณ 25 กิโลกรัม และสามารถตะกายขึ้นมาถึงคอของสวย แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอ ใช่แล้วค่ะ..สวยกำลังจะพูดถึงหมาพันธุ์ยักษ์ ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า giant breed dog นั่นเอง
ผลพวงจากการที่สวยชอบของใหญ่ สวยจึงมีความสนอกสนใจในน้องหมาพันธุ์ยักษ์มาตั้งแต่เด็ก เพียงแต่ว่าสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยให้เลี้ยงได้ การจะเลี้ยงน้องหมาพันธุ์ยักษ์นั้นมีความยุ่งยากซับซ้อนค่ะ หากคุณเป็นคนชอบสิ่งใหญ่ ๆ ก็ต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมเป็นธรรมดา น้องหมาพันธุ์ยักษ์นั้นมีค่าใช้จ่ายสูงค่ะ ทั้งค่าอาหารการกิน การฝึกฝน ค่ารักษาพยาบาล การดูแลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำผม ทำเล็บ อาบน้ำ เหล่านี้ล้วนจำเป็นค่ะ
น้องหมาพันธุ์ยักษ์นี้ ถึงแม้ว่าบ้างพันธุ์จะไม่ดุร้าย แต่ก็ต้องการการฝึกอย่างจริงจังค่ะ เพราะแค่มันปรารถนาดีอยากกระโจนมาหอมแก้มเรา ก็อาจทำให้เราถึงตายได้ ด้วยน้ำหนักกว่า 50 กิโลกรัม (หนักกว่าตัวสวยเองอีกค่ะ) นอกจากนี้แล้ว น้องหมาพวกนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมากมายค่ะ โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับกระดูก ข้อเสียอีกอย่างของหมาพันธุ์ยักษ์ก็คือ พวกเขามักจะอายุสั้นค่ะ ส่วนใหญ่จะมีอายุประมาณ 6-10 ปีเท่านั้น ต่างจากหมาพันธุ์เล็ก ๆ
ถ้าหากคุณพี่มีความสนใจในของใหญ่เหมือนกับสวย เรามาติดตามดูกันเลยค่ะ ว่าหมาพันธุ์ยักษ์ที่ว่า มีพันธุ์อะไรบ้าง สวยเลือกมานำเสนอให้คุณพี่ได้ชมถึง 6 พันธุ์ค่ะ
พันธุ์แรกก็คือ Old English Mastiff ค่ะ มักจะเรียกสั้น ๆ ว่า Mastiff สุนัขพันธุ์นี้ตัวใหญ่มากค่ะ ถ้าสวยเข้าใจไม่ผิด สุนัขที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลกก็คือพันธุ์นี้นี่เองล่ะค่ะ สมัยก่อนที่อังกฤษจะเลี้ยงเอาไว้เฝ้าฝูงสัตว์ เพราะมันสามารถสู้กับหมีได้ค่ะ แต่เดี๋ยวนี้ก็มีคนเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยงมากมาย น้องหมาพันธุ์นี้น่ารักค่ะ จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาใจเจ้านาย ถึงจะตัวใหญ่แต่ก็ไม่ก้าวร้าวค่ะ น้องหมาพันธุ์นี้ protective ทีเดียว เมื่อคุณพี่พบเจอคนแปลกหน้า มันจะเอาตัวเข้ามาขวางระหว่าคุณพี่กับคนแปลกหน้านั้นจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีอันตรายค่ะ ขนของเขาจะค่อนข้างสั้น ไม่เป็นปัญหาในการดูแลหรือเวลาผลัดขน แต่เขาจะมีน้ำลายไหล และสามารถกรนได้ค่ะ

พันธุ์ต่อมานี่เป็นที่รู้จักกันดีในประเทศไทยค่ะ คือ Saint Bernard หรือชื่อเล่นว่า Saint น้องหมาพันธุ์นี้มีทั้งขนยาวและขนสั้นค่ะ ใครที่เคยสัมผัสคงจะทราบดีว่าน้องหมาพันธุ์นี้นั้นใจดีมากมาย ไร้ซึ่งความดุค่ะ ถ้าไม่ได้เลี้ยงมันแย่จนเกินไป น้องหมาสามารถเข้ากันได้ดีกับเด็กและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ หมาพันธุ์นี้เขาเลี้ยงไว้ช่วยชีวิตคนในหิมะค่ะ เห็นไหมคะว่ามันใจดีมาก คนเขาถึงได้ตั้งชื่อให้มันเป็นนักบุญ (saint) ไงล่ะคะ
พันธุ์ที่ 3 คือ Newfoundland ค่ะ ชื่อเล่นว่า Newfie น้องหมาพันธุ์นี้ที่นิยมเลี้ยงกันจะเป็นสีดำค่ะ และขนค่อนข้างยาว ดูภายนอกจะคล้ายหมีดำมากกว่าหมาค่ะ น่ารักใช่ไหมคะ เจ้าหมาพันธุ์นี้ก็ถูกเลี้ยงไว้ช่วยชีวิตคนเวลาจมน้ำด้วยค่ะ มันค่อนข้างใจดีและเป็นมิตร มันก็คล้าย ๆ หมาพันธุ์ยักษ์ 2 ตัวข้างบนค่ะ คือมีน้ำลายไหล ขนที่ยาวนี่จะผลัดขนปีละ 2 ครั้งค่ะ ถ้าใครจะเลี้ยงก็ต้องทำใจว่าเวลามันผลัดขนก็มีขนร่วงเต็มบ้าน นอกจากนี้ยังต้องคอยหวีขนและตกแต่งขนให้มันเป็นประจำด้วยค่ะ
พันธุ์ต่อมานี่สวยขอยืนยันนะคะว่าเป็นหมา น้องหมาพันธุ์นี้คือ Tibetan Mastiff ค่ะ มีถิ่นกำเนิดในดินแดนธิเบต ประเทศจีน จะเห็นว่าขนมันฟูฟ่องมากจนหน้าตาเหมือนสิงโตมากกว่าจะเป็นหมา ขนที่ฟูฟ่องนี้ก็จะต้องการการดูแลมากค่ะ น้องหมาพันธุ์นี้จะฉลาดและไม่ค่อยเชื่อฟังเรา ชอบขุดทำลายข้าวของตามสมควร แต่อย่างไรก็ดี มันสามารถช่วยรักษาความปลอดภัยให้ครอบครัวของเราได้ค่ะ ซึ่งมันอาจจะทำหน้าที่นี้ดีเกินไป ผู้เลี้ยงจึงต้องสวมสายรัดเวลาจะพาน้องหมาออกไปเดินค่ะ เคยมีข่าวว่าน้องหมาพันธ์นี้ 2 ตัว ร่วมด้วยช่วยกันฆ่าเสือได้สำเร็จ ด้วยนะคะ ขอบอก..
พันธุ์ที่ 5 นี่ชื่อว่า Leonberger ค่ะ ชื่อเล่นของมันคือ Leo น้องหมาขนฟูตัวนี้ดีหน่อยที่จะไม่น้ำลายยืดค่ะ แต่ว่ามันจะขี้เล่นและซุกซนมาก ชอบเล่นน้ำ เล่นโคลน สารพัดสารเพ มีโอกาสที่จะทำบ้านเราสกปรกได้ค่ะ น้องหมาพันธุ์นี้เขาก็ฝึกให้ช่วยชีวิตคนจมน้ำเช่นกัน เพราะว่าอย่างที่บอกค่ะ มันชอบเล่นน้ำมาก โดยธรรมชาติแล้วมันจะไม่ก้าวร้าวหรือดุร้ายค่ะ แต่ด้วยความซุกซนขี้เล่น การฝึกจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งค่ะ เพื่อไม่ให้มีข่าวเจ้าของโดนน้องหมาทับตายขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์

พันธุ์สุดท้ายนี้ ชื่อ Neapolitan Mastiff ค่ะ ชื่อเล่นว่า Neo น้องหมาพันธุ์นี้ตัวใหญ่และหน้าตาน่ากลัวค่ะ ผิวหนังมันจะย่น ๆ ซึ่งลักษณะเด่นของพันธุ์นี้ก็คือความย้วยนี่เองล่ะค่ะ น้องหมาพันธุ์นี้จะค่อนข้างหวงของ ไม่ว่าจะเป็นของเล่น ของกิน หรือกระทั่งหวงคุณพี่ ดังนั้นมีแนวโน้มที่จะอิจฉาหมาตัวอื่นค่ะ ต้องระวัง ลองนึกภาพว่าในขณะที่นังพุดเดิลตัวน้อย ๆ กำลังประจบสอพลอพะเน้าพะนอคุณพี่อยู่ น้องหมาตัวนี้ก็เกิดอิจฉาและกระโจนเข้างับหัวนังพุดเดิลขาดกระจุยสิคะ คุณพี่คงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ดังนั้นต้องฝึกให้น้องหมาเข้าสังคมตั้งแต่เด็กค่ะ นอกจากความย้วยแล้ว น้องหมายังมีน้ำลายไหลด้วยค่ะ บางคนอาจจะรู้สึกว่ามันน่าเกลียดมากกว่าน่ารัก
เห็นไหมคะ ว่าน้องหมาพันธุ์ยักษ์นี่มีแต่น่ารัก ๆ ทั้งนั้นเลย วันนี้สวยต้องขอพอเท่านี้ก่อนค่ะ ก่อนจากกัน สวยมีเรื่องฝากไว้สำหรับคุณพี่ที่สนใจเลี้ยงหมาพันธุ์ยักษ์เหล่านี้ นั่นคือ คุณพี่ควรจะต้องศึกษาหาข้อมูลอย่างละเอียดค่ะ เพราะการเลี้ยงมีความสลับซับซ้อน น้องหมาบางพันธุ์มีความซุกซน บางพันธ์ protective มาก บางพันธ์มีน้ำลายไหล บางพันธุ์มีขนหนาต้องการการดูแลและมีการผลัดขนจำนวนมหาศาล นอกจากนี้ น้องหมายังชอบให้เลี้ยงไว้ในบ้านค่ะ เพราะมันมักจะชอบเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวและมีกิจกรรมร่วมกับเจ้าของ
การฝึกฝนให้เชื่อฟังคำสั่งและการฝึกฝนให้รู้จักเข้าสังคมเป็นสิ่งจำเป็นมากค่ะ ด้วยขนาดอันใหญ่โตมโหฬาร ทำให้น้องหมาอาจก่อความเสียหายอย่างร้ายกาจได้ถ้าหากเลี้ยงไม่ถูกวิธี แต่ว่าข้อดีอย่างสำคัญคือ น้องหมาพวกนี้ไม่ต้องฝึกเรื่องการเฝ้าบ้านมากค่ะ เพราะมันมักจะมีสัญชาตญาณที่ protective อยู่แล้ว ความฉลาดของมันก็เป็นข้อดีอีกอย่างค่ะ จะเห็นว่าหมาเหล่านี้มักถูกเลี้ยงไว้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเฝ้าสัตว์ หรือช่วยชีวิตคน แต่ต้องพึงตระหนักไว้เสมอนะคะ ว่าน้องหมาอาจตัวใหญ่มาก (บางตัวใหญ่เท่าม้าเลยค่ะ) ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และอาจมีโรคภัยไข้เจ็บรุมเราได้ง่าย ๆ ค่ะ
www.oknation.net/blog/print.php?id=459285
